top of page

สถานที่ท่องเที่ยว ในอำเภอเมือง

มอหินขาว ชัยภูมิ

 

เป็นกลุ่มหินขนาดใหญ่จำนวน 3 กลุ่ม โดยจะมีหินทรายก้อนใหญ่ก้อนหนึ่งเป็นสีขาวและโดดเด่นในพื้นที่ และเป็นที่มาของคำว่า มอหินขาว และในบริเวณยังมีเสาหินขนาดใหญ่จำนวน 5 เสา ตั้งเรียงรายกันเป็นแถว มีความสูงประมาณ 12 เมตร นอกจากนั้นยังมีแท่นหินที่มีรูปร่างคล้ายเรือ เจดีย์ หอเอียงเมืองปิซ่า และคล้ายกระดองเต่า ซึ่งจัดเป็นกลุ่มหินที่ 1 กลุ่มหินที่ 2 อยู่ห่างออกไป แท่นหินจะมีรูปร่างแปลกแตกต่างกันออกไป และเมื่อห่างออกไปอีกประมาณ 1,500 เมตร จะเป็นกลุ่มหินที่ 3 ที่เป็นแท่นหินและเสาหินขนาดเล็ก โดยลาดเอียงขึ้นไปจดหน้าผาที่มีชื่อว่า ผาหัวนาก และบริเวณมอหินขาวยังเป็นจุดชมทิวทัศน์ที่สวยงามแห่งหนึ่งของจังหวัดชัยภูมิ

 

การเดินทางไปมอหินขาว

1. โดยรถยนต์ส่วนตัว
จากตัวจังหวัดชัยภูมิ ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 2051 ถนนสายชัยภูมิ – ตาดโตน เป็นทางลาดยางระยะทาง ประมาณ18 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายก่อนถึงด่านของอุทยานแห่งชาติตาดโตน ตามถนนตาดโตน – ท่าหินโงม เป็นทาง ลาดยางประมาณ 12 กิโลเมตร แยกซ้ายตามถนนแจ้งเจริญ-โสกเชือก เป็นทางลูกรัง ระยะทาง 6.5 กิโลเมตรถึง บ้านวังคำแคนจากนั้นเลี้ยวขวาช่วงบ้านวังคำแคน ่ ไปต่ออีกประมาณ 3.5 กิโลเมตร เส้นทางเป็นถนนราดยาง
2. โดยรถโดยสารประจำทาง
ที่มอหินขาวไม่มีรถสาธารณะผ่าน นักท่องเที่ยวที่ต้องการมาที่นี่ต้องเหมารถจากตัวเมืองชัยภูมิหรือหากไปเที่ยวสามารถเหมารถจากตัว จังหวัดชัยภูมิ หรือใช้บริการรถนำเที่ยว คุณดาว โทร 080 198 5248 , 087 958 5395

น้ำตกตาดโตน ชัยภูมิ

อุทยานแห่งชาติตาดโตน

มีน้ำตกตาดโตน ซึ่งอยู่ในป่าสงวนแห่งชาติภูแลนคา ตั้งอยู่ ต.นาฝาย อ.เมือง จ.ชัยภูมิ เป็นน้ำตกที่สวยงาม มีลานหินกว้างและมีน้ำไหลตลอดปี ด่านล่างของน้ำตกเล่นน้ำได้

อุทยานแห่งชาติตาดโตน มีพื้นที่อยู่บนเทือกเขาภูแลนคา มีพื้นที่ประมาณ 1 ใน 4 ของเทือกเขาภูแลนคา โดยทั่วไปเป็นที่ราบสูงโดยมีเทือกเขาล้อมรอบที่ราบเอาไว้ ตอนกลางเป็นหุบเขากว้างใหญ่ พื้นที่ของอุทยานแห่งชาติทางด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือจะมีเขาภูเขียว ภูกลาง และภูแลนคา ซึ่งจะมีระดับสูงสุด 905 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือจะมียอดภูแลนคาซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของอุทยานแห่งชาติตาดโตน โดยมีความสูงประมาณ 945 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ยอดเขาสูงเหล่านี้เป็นต้นน้ำลำธารของห้วยต่างที่สำคัญหลายสาย และต้นกำเนิดของน้ำตกตาดโตน ได้แก่ ห้วยลำปะทาวหรือห้วยตาดโตน ห้วยน้ำซับ ห้วยคร้อ ห้วยตาดโตนน้อย ห้วยสีนวน และห้วยแก่นท้าว ซึ่งจะไหลรวมกันเป็นห้วยปะทาวและไหลผ่านตัวอำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ นอกจากนี้ยังมีห้วยที่สำคัญคือ ห้วยชีลอง ห้วยช่อระกา ห้วยเสียว ห้วยแคน และห้วยเสียวน้อย สภาพป่าเป็นป่าดิบแล้ง ในบริเวณริมลำห้วยหุบเขาและยอดเขามีดินที่มีความอุดมสมบูรณ์ดี และป่าเต็งรังเป็นดินกรวด มีความอุดมสมบูรณ์ค่อนข้างต่ำ

สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดและจองบ้านพักล่วงหน้าได้ที่ กองอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้ บางเขน กรุงเทพฯ โทร. 579-0529, 579-4842 การเดินทาง ไปตามทางหลวงหมายเลข 2051 จากตัวเมืองถึงที่ทำการอุทยานฯ ระยะทางประมาณ 21 กม. ถนนราดยางตลอดสาย

 

การเดินทางไปน้ำตกตาดโตน
1. โดยรถยนต์ส่วนตัว จากตัวเมืองทางหลวงหมายเลข 2159 และแยกขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 2051 ระยะทางจากตัวเมืองถึงที่ทำ การอุทยานฯ ระยะทางประมาณ 21 กิโลเมตร หรืออาจใช้เส้นทางหมายเลข 201 ทางไปอำเภอภูเขียว จะมีเส้น ทางแยกซ้ายอีก 21กิโลเมตรไปน้ำตกตาดโตนได้เช่นกัน
2. โดยรถโดยสารประจำทาง สำหรับผู้ที่เดินทางโดยรถโดยสาร สามารถใช้บริการรถสองแถวสายชัยภูมิ-ท่าหินโงม ลงที่ด่านเก็บค่าธรรมเนียม แล้วเดินเท้า อีก 1 กิโลเมตรถึงที่ตั้งอุทยานเดินเข้าน้ำตกcตาดโตนประมาณ 500 เมตร ตามถนนลาดยาง หรือเดิน ลัดเลาะตามโขด

 

 

 สวนสัตว์ @ สวนน้ำ สตาร์ไทเกอร์  ชัยภูมิ

สวนสัตว์สตาร์ไทเกอร์

หลายๆท่านอาจจะไม่เคยทราบมาก่อนว่าที่จังหวัดชัยภูมิก็มีสวนสัตว์ด้วย เป็นสวนสัตว์เปิดใหม่ที่เปิดให้บริการมาแล้วกว่า 3 ปี ด้านหน้าของสวนสัตว์จะเป็นลานกิจกรรมสำหรับทำกิจกรรมในวันสำคัญ ภายในก็มีสัตว์ให้ท่านได้ชมมากกมาย ท่านจะได้ตื่นตาตื่นใจกับสัตว์นานาชนิด ที่ท่านอาจจะไม่เคยเห็นมาก่อน นอกจากนี้ยังมีสวนน้ำไว้ให้บริการอีกด้วย ภายในจะมีจุดเล่นน้ำให้เล่นหลายจุดทั้งที่เป็นจุดสำหรับเด็กๆ ที่มีสไลด์เดอร์ให้เด็กๆได้สนุกกัน และจุดเล่นน้ำสำหรับผู้ใหญ่อีกด้วย เป็นการพักผ่อนที่คุ้มค่าเป็นอย่างมาก

สวนเสือเปิดสวนน้ำ รับอากาศร้อนๆ ช่วงนี้มีโอกาสมาที่บ้านเกิดของปาติ้งโก๋อีกครั้ง ที่น่าสนใจคือ มีสวนน้ำที่ทันสมัย และสวนเสือในพื้นที่เดียวกัน มีข่าวดีว่าสวนเสือชนะคดีที่ฟ้องร้องกันเรื่องของเสือเสือไม่ได้ปิดแต่อย่างใด ยังเปิดให้เข้าชมได้ตามปกติ แถมเพิ่มสวนน้ำที่ทันสมัยให้ผ่อนคลายดับร้อนกันอีกนะครับ ที่น่าเห็นใจเจ้าของเป็นหญิงเหล็กสาวสวยที่ตั้งใจทำงาน สร้างสิ่งดีๆให้กับชาวชัยภูมิ สร้างงานให้คนในชุมชนไม่น้อย แต่กลับโดนผู้ชายอกศอกครึ่ง กลั่นแกล้งต่างๆนา โดยเฉพาะเรื่องของการเข้าหยึดเสือที่สวน แต่เธอก็ต่อสู้จนชนะคดี เธอบอกขอสู้เพื่อความถูกต้องและขอความเป็นธรรมให้เธอด้วย นี่ละครับปาติ้งโก๋ยอมรับว่าเธอเป็นนักต่อสู้ หญิงเหล็กแห่งเมืองพ่อแลจริงๆ เรื่องของเธอทำให้ยิ่งน่าสนใจ ทีมงานจึงได้ขอพบเพื่อทักทาย และพูดคุยเรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับตัวเธอ ทีมงานได้โทรประสานขอพบก็ได้รับการตอบรับทันที่ แล้วทีมงานก็ได้เดินทางมาตามที่ได้นัดหมายเวลาไว้ ประมาณ 10.00 น.ของวันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 ทีมงานเดินทางมามาถึงลานจอดรถ แล้วบอกยามที่หน้าสวนว่ามาขอพบ คุณ ดาวเรือง ชัยมาตร แล้วทีมงานก็เดินเข้าไปจอดรถเด็กคนงานบอกเดี๋ยวคุณดาวมา สักพักก็มีหญิงสาวรูปร่างสูงพอประมาณกำลังดี ใส่กางเกงสีแดงเลือดนก เสื้อยืดสีน้ำเงิน

 

วิธีการเดินทาง

 

วิธีที่ 1 เดินทางโดย รถยนต์

รถยนต์จากตัวเมืองชัยภูมิ ไปสตาร์ไทเกอร์ จะห่างจากตัวเมืองจังหวัดชัยภูมิ ออกไปประมาณ 10 กิโลเมตร ให้มุ่งหน้าตรงไปทางถนนชัยภูมิ-น้ำตกตาดโตน ประมาณ 8 กิโลเมตร จากนั้นจะเจอไฟแดง 4 แยก ช่อระกา แล้วให้เลี้ยวซ้ายขับรถตรงไปอีกประมาณ 2 กิโลเมตรก็จะเจอสตาร์ไทเกอร์ จะอยู่ซ้ายมือ มีป้ายชัดเจน (ท่านที่จะไปเที่ยวสตาร์ไทเกอร์แนะนำให้ใช้รถส่วนตัวหรือรถนำเที่ยวจะดีกว่าจะสะดวกที่สุด)

 

วิธีที่ 2 เดินทางโดย รถสองแถว/สามล้อ

นักท่องเที่ยวที่จะไปสตาร์ไทเกอร์ นั่งรถสองแถว สายชัยภูมิ-หนองบัวแดงจากสถานีขนส่งชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ เที่ยวแรกรถจะออกตั้งแต่เวลา 06.00 น.และรถออกทุก 3 ชั่วโมง เที่ยวสุดท้ายรถออกเวลา 16.00 น. (แต่เพื่อให้ได้อรรถรสในการท่องเที่ยวจังหวัดชัยภูมิ ขอแนะนำให้ใช้รถยนต์ส่วนบุคคลหรือรถนำเที่ยวเท่านั้น เพื่อความสะดวกในการท่องเที่ยวแต่ละจุด)

น้ำตกตาดฟ้า  ชัยภูมิ

น้ำตกตาดฟ้า  เป็นน้ำตกขนาดเล็ก ลักษณะคล้ายแก่งหินขวางลำน้ำ บริเวณน้ำตกเป็นลานหินลาดชันกว้างประมาณ 15-20เมตร ยาวโดยตลอดประมาณ 80-90 เมตร มีความลาดชันประมาณ 30 องศา ในฤดูฝนน้ำตกจะมีความสวยงามมาก ผู้ที่เข้าไปเที่ยวน้ำตกสามารถ ที่จะเล่นลื่นไหลไปตามแผ่นหินอย่างสนุกสนานเพลิดเพลิน ที่เรียกว่า “สไลด์เดอร์ธรรมชาติ” น้ำตกอยู่ทางทิศตะวันออกของเขตอุทยานแห่งชาติ ห่างจากตัวจังหวัดชัยภูมิ ประมาณ 23กิโลเมตร ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ประมาณ 19กิโลเมตร การคมนาคมจะไปตามทางลาดยางตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 201ระยะทางประมาณ 15กิโลเมตร ถึงบ้านไทรงามแล้ว แยกซ้ายมือไปตามถนนลาดยางถึงบ้านนาวัง แยกขวามือบริเวณโรงเรียนบ้านนาวังเข้าไปเป็นระยะทาง 4กิโลเมตร สองข้างทางเป็นป่าเต็งรัง ถึงบริเวณหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ที่ ตน.3 (ตาดฟ้า) ปัจจุบันเปิดให้บริการบ้านพัก 4 หลัง สถานที่กางเต็นท์ ห้องประชุม และร้านอาหาร เป็นต้น

 

การเดินทาง : จากตัวเมืองไปตามทางหลวงหมายเลข ๒๐๑ ประมาณ ๑๓ กิโลเมตร มีทางเลี้ยวซ้ายไปอีก ๔ กิโลเมตร ถึงโรงเรียนบ้านนาวัง เลี้ยวขวาอีก ๔ กิโลเมตร เมื่อถึงลานจอดรถต้องเดินเท้าอีก ๓๐๐ เมตร

 

สถานที่สำคัญจังหวัดชัยภูมิ อนุสาวรีย์พระยาภักดีชุมพล (แล)   

สถานที่สำคัญจังหวัดชัยภูมิ อนุสาวรีย์พระยาภักดีชุมพล (แล)

อนุสาวรีย์พระยาภักดีชุมพล ตั้งอยู่กลางวงเวียนศูนย์ราชการ ในตัวเมือง ชาวชัยภูมิได้ร่วมกันสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แด่เจ้าเมืองคนแรกของชัยภูมิ ตามประวัติเล่าว่า ในปี 2360 ซึ่งตรงกับสมัยรัชกาลที่ 2 นายแล ซึ่งเป็นข้าราชการสำนักเจ้าอนุวงศ์เวียงจันทน์ ได้อพยพครอบครัวและบริวารข้ามลำน้ำโขงมาตั้งบ้านเรือนอยู่ที่บ้านน้ำขุ่น บริเวณอำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมาในปัจจุบัน ต่อมาจึงได้ย้าย ชุมชนมาตั้งใหม่ที่โนนน้ำอ้อม บ้านชีลอง ห่างจากตัวเมืองชัยภูมิ 6 กิโลเมตร ได้ส่งส่วยต่อเจ้าอนุวงศ์เวียงจันทน์ ต่อมาจึงย้ายชุมชนมาอยู่ที่บ้านหลวง ในเขตอำเภอเมืองปัจจุบัน และได้หันมาขึ้นตรงต่อเมืองนครราชสีมา ส่งส่วยแก่รัชกาลที่ 3 ไม่ขึ้นแก่เจ้าอนุวงศ์เวียงจันทน์อีกต่อไป จึงโปรดเกล้าฯ ยกบ้านหลวงเป็นเมืองชัยภูมิ และแต่งตั้ง ขุนภักดีชุมพล (แล) เป็นเจ้าเมืองคนแรกของชัยภูมิ ครั้น พ.ศ. 2369 เจ้าอนุวงศ์เวียงจันทน์ก่อการกบฎ ยกทัพเข้าตีเมืองนครราชสีมา ขุนภักดีชุมพลพร้อมเจ้าเมืองใกล้เคียงยกทัพไปสมทบกับคุณหญิงโม ตีกระหนาบทัพเจ้าอนุวงศ์จนแตกพ่าย เจ้าอนุวงศ์เกิดความแค้นจึงย้อนกลับมาจับขุนภักดีชุมพลประหารชีวิตที่บริเวณ ใต้ต้นมะขามริมหนองปลาเฒ่า ด้วยความดีที่ขุนภักดีชุมพลมีต่อแผ่นดินไทยจึงได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์

เป็นพระยาภักดีชุมพล (แล)

 

การเดินทาง

รถยนต์

จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 1 (ถนนพหลโยธิน) ผ่านรังสิตวังน้อย จนถึงสามแยก จังหวัดสระบุรี เลี้ยวขวาไปตามเส้นทางหลวงหมายเลข 2 (ถนนมิตรภาพ) แล้วแยกซ้ายเข้าสู่ทางหลวง หมายเลข 201 ที่อำเภอสีคิ้ว อำเภอด่านขุนทด เข้าสู่จังหวัดชัยภูมิ รวมระยะทางประมาณ 342 กม. 
จากจังหวัดนครราชสีมา เดินทางไปตามทางหลวงหมายเลข 2 (ถนนมิตรภาพ-ขอนแก่น) ผ่านตำบลจอหอ เลี้ยวซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข 205 ผ่านอำเภอโนนไทย ตรงไปจนถึงสี่แยก ตำบลหนองบัวโคก อำเภอจัตุรัส เลี้ยวขวาไปตามทางหลวงหมายเลข 201 เข้าสู่จังหวัดชัยภูมิ รวมระยะทาง 119 กม.


รถโดยสาร
บริษัทขนส่ง จำกัด เปิดบริการเดินรถ กรุงเทพฯ-ชัยภูมิ ทุกวัน ติดต่อขอรายละเอียดได้ที่ โทร. 272-5228, 272-5852 (รถธรรมดา) และบริษัท แอร์ชัยภูมิ โทร. 272-5260 หรือที่ชัยภูมิ โทร. (044) 811556 (รถปรับอากาศ)

ใบเสมาบ้านกุดโง้ง ชัยภูมิ

ใบเสมาที่บ้านกุดโง้ง พบกระจายอยู่ทั่วไปบริเวณรอบหมู่บ้าน แต่เดิมใบเสมาเหล่านี้จะจมอยู่ในดิน มีเฉพาะส่วนยอดโผล่ขึ้นมาให้เห็น ไม่เป็นที่สนใจของคนทั่วไป ยกเว้นใบเสมาภาพชาดกที่ไม่ได้ฝังจมดินอยู่เหมือนใบเสมาอื่นๆ แต่ปับอยู่กลางแจ้งขอบเนินดินเตี้ยๆ ขนาดเล็ก 2 เนิน (ซึ่งปัจจุบันนี้เป็นพื้นที่ทำนา) ที่อยู่ห่างจากเขตหมู่บ้านไม่ไกลนักโดยเนินดินแรกพบว่ามีการปักใบเสมาเป็นรูปวงกลมล้อมรอบเนินดิน โดยปักเป็นเสมาคู่ มี 5 จุด ส่วนเนินดินที่ 2 ซึ่งอยู่ห่างจากเนินดินแรกไปทางทิศตะวันตกเล็กน้อย ก็มีลักษณะและทิศทางในการปักเหมือนกัน เนินดินที่ปักใบเสมารูปชาดกทั้งสองนี้ มีขนาดเล็กและไม่พบเศษอิฐหรือซากศาสนสถานบริเวณเนินดินดังกล่าวเลย จึงสันนิษฐานว่าใบเสมาภาพชาดกที่อยู่รอบเนินดินนี้คงใช้ปักเป็นเครื่องหมายแสดงถึงลานที่ศักดิ์สิทธิ์มากกว่าที่จะใช้เป็นเสมารอบอุโบสถ์ และช่วงเวลาต่อมาอาจได้มีการใช้ใบเสมานี้เป็นสิ่งเคารพนับถือภายในหมู่บ้านด้วย เพราะใบเสมาที่เป็นรูปพระพุทธรูปเจ้าประทับนั่งแสดงธรรมที่พบกลางเนินดินแรกนั้น ได้มีร่องรอยของการปิดทองอันแสดงถึงการใช้เป็นที่กราบไหว้บูชาทำนองเดียวกับพระพุทธรูป

 

เดินทางอย่างไร :

โดยรถยนต์

ในการเดินทางไปยังใบเสมาบ้านกุดโง้ง หากเลือกเดินทางโดยรถยนต์โดยสารส่วนตัวแล้วนั้น จากตัวเมืองชัยภูมิให้ขับไปตามทางหลวงหมายเลข 202 ประมาณ 12 กิโลเมตร จากนั้นจะเจอทางเลี้ยวขวา ให้เลี้ยวขวาแล้วตรงเข้าไปอีก 3 กิโลเมตรเมื่อถึงบ้านกุดตุ้ม แล้วให้เลี้ยวขวาเข้าเส้นทางกุดตุ้ม-บุ่งคล้าอีก 4 กิโลเมตรจากนั้นอีกไม่นานก็จะถึงใบเสมาบ้านกุดโง้ง

 

ปรางค์กู่ ชัยภูมิ

“ปรางค์กู่” เป็นคำที่ใช้เรียกกลุ่มอาคารที่มีแผนผังและลักษณะเช่นเดียวกันกับปราสาท ตามหลักฐานเชื่อกันว่าปรางค์กู่แห่งนี้เป็น “อโรคยาศาล” หรือสถานพยาบาลที่สร้างขึ้นในสมัยของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ช่วงระหว่าง พ.ศ. 1724-1763 มีปรางค์ประธานอยู่ตรงกลาง 1 องค์ มีวิหารหรือบรรณาลัยด้านหน้า 1 หลัง ทั้งหมดถูกล้อมรอบด้วยกำแพงศิลาแลงซึ่งมีโคปุระ หรือซุ้มประตูอยู่ที่ด้านหน้า ทั้งหมดถูกสร้างขึ้นด้วยศิลาแลง เว้นก็แต่กรอบประตู หน้าต่าง ทับหลัง และเสาประดับที่เป็นหินทราย ภายในปรางค์ประธานทรงสี่เหลี่ยมจตุรัสประดิษฐานพระพุทธรูปศิลาปางสมาธิ ศิลปะแบบทวาราวดีซึ่งเป็นของที่เคลื่อนย้ายมาจากที่อื่น ชาวชัยภูมิให้ความเคารพศรัทธามาก หลังจากที่เราได้สักการะขอพรเรียบร้อยแล้ว เราก็ค่อยเดินชมไปรอบๆ

 

จุดสำคัญต่างๆ ของปรางค์กู่ยังคงความสมบูรณ์ไว้มาก ทั้งหน้าบันที่แกะสลักหินเป็นรูปพระโพธิสัตวอวโรกิเตศวร 4 กรรวมถึงทับหลังที่อยู่ทางด้านทิศเหนือและทิศตะวันออกที่มีรูปของพระพุทธรูปประทับนั่งปางสมาธิเหนือกาล กับรูปนางปรัชญาปารมิตา นอกจากนี้ที่บริเวณวิหารหรือบรรณาลัยนั้นก็มีภาพแกะสลักบนหินเช่นเดียวกัน ว่ากันว่าบรรณาลัยนี้เป็นที่เก็บยา มีแท่นรูปเคารพอยู่ด้านใน ซึ่งสร้างตามความเชื่อของไสวนิกายที่นับถือพระเจ้าสามองค์ คือ พระศิวะ พระนารายณ์ และพระพรหม  ซึ่งพระพรหมเป็นผู้ทำลายล้างและสร้างโลกใหม่ และด้วยความเชื่อนี้เอง ในอดีตเวลาที่มีการประกอบพิธีสำคัญต่างๆ เมื่อพราหมณ์เทน้ำรดจากปลายศิวลึงค์และปล่อยให้ไหลลงสู่ฐานโยนี ชาวบ้านจะมารองน้ำนี้ไปใช้ดื่มกันโดยเชื่อกันว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์นั่นเอง เราใช้เวลาเดินชมปรางค์กู่ไม่นานนักเวลาก็ล่วงเลยเข้าสู่ช่วงเย็นของวัน พอแดดร่มลมตกชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในระแวกนี้ก็มักจะออกมาเดินเล่น พบปะพูดคุย แม้กระทั่งเด็กๆ ก็ยังเห็นมาวิ่งเล่นไปรอบๆ ทำให้บรรยากาศโดยรอบของปรางค์กู่นี้มีชีวิตชีวามากขึ้น

 

ข้อมูลทั่วไป

ที่อยู่ : บ้านหนองบัว ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ

GPS : 15.806500, 102.044483

ช่วงเวลาแนะนำ : ตลอดทั้งปี

กิจกรรม : เดินเที่ยวชมโบราณสถาน  รวมถึงสักการะขอพรจากพระพุทธรูปศิลาที่ประดิษฐานอยู่ภายในวิหาร

 

วิธีการเดินทาง

จากในตัวเมืองจังหวัดชัยภูมิ เริ่มที่อนุสาวรีย์เจ้าพ่อพระยาแล ให้ใช้เส้นทางถนนเมืองเก่า ผ่านศาลากลางจังหวัดไปตามเส้นทางประมาณ 2 กิโลเมตร จะเห็นปรางค์กู่อยู่บริเวณทางโค้งถนนใกล้กับวัดปรางค์กู่หรือจากตัวเมืองสามารถใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 202 (ชัยภูมิ-บัวใหญ่) ไปประมาณ 1 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวขวามเข้าปรางค์กู่ ตามทางหลวงหมายเลข 2158 (ถนนเมืองเก่า) เป็นระยะทางอีก 2 กิโลเมตรก็จะเจอปรางค์กู่รวนวิหาร

bottom of page